ร้อมๆกับ ดงบังชินกิ ภายใต้เม็ดเงินการลงทุนเนรมิตคอนเสิร์ตที่เรียกได้ว่าเต็มทีกัน
เลยทีเดียว
สำหรับคอนเสริต์ในครั้งนี้พิเศษอย่างมาก ไม่เพียงแต่แฟนๆจะได้รับอรรถรสในได้ 'ฟัง' ได้อย่างเต็มร้อยแล้ว แต่พวกเขายังจะได้รับอรรถรสในการ 'ชม' เกินร้อยเช่นกัน ด้วยเซ็ตภาพจากจอ LED ไวด์สกรีนขนาดยักษ์ ยาว 56 เมตร สูง 6 เมตร ที่ติดตั้งอยู่ทั่วทั้งเวที ซึ่งจะเผยให้เห็นใบหน้าของศิลปินและภาพวีทีอาร์ที่เข้าถึงอารมณ
์ได้อย่างแท้จริง
คอนเสิร์ตเปิดตัวด้วยเพลง 'HEY (Don't bring me down)' จากผลงานอัลบั้มชุดที่ 4 ตามด้วย 'อักนยอ (악 녀 - Are you A Good girl?)', 'Rising Sun' 3 เพลงแดนซ์ทรงพลังที่เริ่มต้นพร้อมกับเพิ่มความร้อนแรงให้กันบรร
ดาแฟนๆในฮอลล์ได้อย่างถ้วนหน้า
ดงบังชินกิ ในวันนี้ไม่ได้มาพร้อมกับท่าเต้นอันทรงพลังแต่เพียงอย่างเดียวเ
ท่านั้น แต่พวกเขายังได้เผยถึงความสามารถในการร้องเพลงที่ยอดเยี่ยมอีกด
้วย ซึ่งหลังจากจบช่วงเต้นพวกเขาก็ออกมาพร้อมกับโชว์เพลงสดๆใน 낙원 (นักวอน-PARADISE) และ 무지개 (มูจีเก-RAINBOW) ที่เรียกเสียงปรบมือและเสียงเชียร์จากแฟนๆได้อีกครั้ง
ไม่เพียงแต่ในบทบาทของศิลปินกลุ่มอย่าง ดงบังชินกิ ที่เผยให้เห็นถึงเสน่ห์การเต้นอันน่าทึ่งแล้ว พวกเขายังได้เผยให้เห็นความสามารถในโชว์เดี่ยวของบรรดาเทพทั้ง 5 ไม่ว่าจะเป็น มิคกี้ยูชอน (Micky Yoochun) ในเพลง '사랑 안녕 사랑 (Love Bye Love)' จากอัลบั้มที่ 4 ในเวอร์ชั่นเปียโนชุดขาวที่ร้องและเล่นโดยตัวเขาเอง, ยองอุงแจจุง (Youngwoong Jaejoong) ในเพลงบัลลาดสุดเข้าถึงอารมณ์อย่าง 'Only That is My World (그것만이 내 세상)' ที่งานนี้ทำเอาแฟนๆขนลุกกันทั่วฮอลล์, ชเวกังชางมิน (Choikang Changmin) กับสุดยอดเพลงบัลลาด